คล็อปป์ อัพเดทอาการบาดเจ็บของ ฟาน ไดจ์

กองหลังตัวหลักของหงส์แดงรายนี้ ยังคงต้องพักรักษาตัวเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าของเขา ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะหายเจ็บกลับมาได้ตอนไหน

เจอร์เก้น คล็อปป์ ออกมาอัพเดทสถานการ์อาการบาดเจ็บของ เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ กองหลังตัวหลักของลิเวอร์พูล ซึ่งเขาเปิดเผยว่าตอนนี้ทุกอย่างกำลังดีขึ้นเรื่อยๆ

ฟาน ไดจ์ นั้นได้รับบาดเจ็บในเกมกับ เอฟเวอร์ตัน ตั้งแต่เดือนตุลาคม ที่ผ่านมา และหายหน้าหายตาไปแล้วถึง 3 เดือนด้วยกัน “ผมไม่รู้เลยว่าเขาจะกลับมาได้ตอนไหน และผมเองก็คงไม่ใช่คนที่จะบอกได้ด้วยเช่นกัน” คล็อปป์ กล่าว

“แต่ที่แน่ๆก็คือ เขาดูดีขึ้นมากๆ ผมพึ่งได้คุยโทรศัพท์กับเขาเมื่อเช้าที่ผ่านมา และเขาเองก็ดูอารมดีมากเช่นกัน แต่ผมก็ยังไม่รู้อยู่ดีกว่าเขาจะกลับมาได้ในตอนไหน แน่นอน มันอาจจะต้องมีอะไรมากมายที่เขาต้องผ่านไให้ได้ ผมเองก็เคยบาดเจ็บเหมือนกับเขา ดังนั้นมันต้องใช้เวลาจริงๆ”

บาร์นส์ ยัน ลิเวอร์พูล ไม่ต้องการ คูตินโญ่ แล้ว

ตำนานนักเตะลิเวอร์พูลรายนี้ ไม่คิดว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ จะต้องเอาตัวนักเตะรายนี้กลับมาอีกครั้ง หลังจากที่ทีมมีปัญหาในเรื่องแนวรุก ณ ขณะนี้

ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ นั้นยังคงเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมเหมือนเดิม แต่ตอนนี้ คงไม่เหมาะกับทีม ลิเวอร์พูล อีกแล้ว ตำนานนักเตะของทีม อย่าง จอห์น บาร์น กล่าว

ลูกทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ นั้นทำผลงานได้ไม่ค่อยดีนักในช่วงหลัง หลังจาก 3 เกมหลังสุด พวกเขายังไม่ชนะใครเลย และเก็บไปเพียง 2 แต้มเท่านั้น “ตอนที่เรามี คูตินโญ่ อยู่กับทีม เราตามหลังจ่าฝูงถึง 20 แต้ม” บาร์น กล่าว

“นักเตะอย่างเขา จะทำประตูให้กับทีมได้มากมาย แต่มันก็จะต้องเปลี่ยนสไตล์การเล่นด้วยเช่นกัน และมันจะส่งผลกระทบต่อ สามผสานเราแน่นอน ดังนั้นตอนนี้ เขาอาจจะยังคงเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมเหมือนเดิม แต่ผมมองว่า เขาไม่เหมาะสมกับทีมในตอนนี้แล้วจริงๆ ท้ายที่สุดแล้ว เขาจะทำให้สมดุลในทีมเสียอีกด้วย และมันจะส่งผลกระทบไปถึงเรื่องอื่นๆเช่นกัน”

ผลงานของนักเตะค่าตัวแพงที่สุดของทีมในพรีเมียร์ลีก เมื่อซัมเมอร์ล่าสุด

ตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์ที่ผ่านมา ปิดไปแล้วหลายสัปดาห์ โดยนักเตะใหม่ที่ถูกซื้อเข้ามาก็ถูกส่งลงสนามลงไปบ้าง แม้จะมีบางคนที่ยังไม่ค่อยได้รับโอกาสลงสนามเท่าไหร่ แต่บทความนี้จะมาดูถึงผลงานดังกล่าว หลังจากหลายทีมลงเล่นไปแล้ว 8 เกมในพรีเมียร์ลีก และมีเพียงไม่กี่เกมที่เล่นไป 7 เกม

อาร์เซน่อล – โธมัส ปาร์เตย์ 45 ล้านปอนด์
ไม่มีเกมนี้บอกความสามารถของปาร์เตย์ได้ชัดเจนเท่าเกมที่แพ้ให้กับแอสตัน วิลล่า คาบ้านด้วยสกอร์ 3-0 เช่นเดียวกับเกมที่พบกับเลสเตอร์ ซิตี้ ที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ซึ่งเกมที่พบกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นักเตะก็ทำผลงานออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ช่วยให้ทีมบุกไปชนะได้ถึงโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

เชลซี – ไค ฮาเวิร์ต 71 ล้านปอนด์
แน่นอนว่าหากเทียบกับจำนวนเงิน ดูจะไม่ยังไม่คุ้มสักเท่าไหร่ เมื่อจ่ายออกไปให้กับไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ซึ่งแลกมาด้วยฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นในเกมที่ถล่มบาร์นสลีย์ จากแชมเปี้ยนชิพในฟุตบอลถ้วย ซึ่งฮาเวิร์ตซ์ทำแฮตทริคในเกมนี้ได้

ลิเวอร์พูล – ดิโอโก้ โจต้า 41 ล้านปอนด์
7 ประตู จากการลงสนามเป็นตัวจริง 5 เกมรวมทุกรายการ รวมถึงแฮตทริคที่ช่วยให้ลิเวอร์พูลบุกไปถล่มอตาลันต้าได้ถึงอิตาลีด้วยสกอร์ 5-0 ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก จนบางส่วนเรียกร้องให้ลงสนามเป็นตัวจริงแทนโรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ไปแล้ว

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ – รูเบน ดิอาส 62 ล้านปอนด์
แม้เกมรับของแมนฯ ซิตี้จะดีขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้แข็งแกร่งเท่าที่ควร เมื่อทีมเสียไป 3 ประตู จากการลงสนาม 5 เกม แต่ทรงบอลก็ยังมีแวว หากได้จับคู่กับอายเมอริค ลาปอร์ต และลงสนามได้อย่างต่อเนื่อง

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค 35 ล้านปอนด์
แน่นอนว่าโอเล่ กุนนาร์ โซลชาไม่ได้เซ็นสัญญามิดฟิลด์ชาวดัตช์เพื่อมาเป็นตัวสำรอง แต่เวลาก็อาจจะเป็นสิ่งที่นายใหญ่ชาวนอร์เวย์ต้องการ เมื่อหวังที่จะเห็นฟาน เดอ เบคค่อยๆ ปรับตัวเพื่อลงสนามให้กับทีม แต่หลายคนก็ยังไม่เข้าใจเหมือนกันว่าโซลชารออะไรกับการส่งนักเตะลงสนาม หลังปอล ป็อกบา ก็เป็นตัวสำรองในช่วงท้าย

ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส – เซร์คิโอ เรกีลอน 27 ล้านปอนด์
แบ็คชาวสเปนทำผลงานออกมาได้อย่างน่าประทับใจเลย เหมือนกับเกมที่พบกับเชลซี และยังกลายเป็นตัวหลักในการลงสนามให้กับโชเซ่ มูรินโญ่อย่างต่อเนื่อง โดยเรกีลอนยังสามารถขยับขึ้นมาเล่นในตำแหน่งที่สูงกว่าเดิมและเพิ่มทางเลือกให้กับทีมในกรุงลอนดอนได้

บาร์ซ่าพร้อมปล่อย เดมเบเล่ ซัมเมอร์นี้

บาร์เซโลน่า ยักษ์ใหญ่ของสเปน พร้อมรับฟังข้อเสนอในการปล่อย อุสมาน เดมเบเล่ ออกจากทีม หลังไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีมในฤดูกาลหน้า และทีมต้องการนำเงินเข้ามาเพื่อเสริมทัพนักเตะในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์นี้ แม้นักเตะจะย้ายมาร่วมทีมด้วยเงินค่าตัวมหาศาล

สปอร์ต สื่อของแดนกระทิงดุ อ้างว่า บาร์ซ่าต้องการลดค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไปกับนักเตะในทีมชุดใหญ่ เมื่อเทียบกับผลงานที่ทำให้กับทีม ในขณะที่เดมเบเล่ต้องดิ้นรนอย่างหนักในการสร้างความประทับใจ เมื่อต้องเจอกับอาการบาดเจ็บรบกวนมาตลอดและปัจจุบันยังอยู่ในช่วงพักฟื้นการผ่าตัดเอ็นร้อยหวาย และ ผลบอลสด ในช่วงที่ผ่านมาก็แทบไม่คุ้มค่าเหนื่อยเอาเสียเลย

ตัวรุกชาวฝรั่งเศสเคยเป็นข่าวเชื่อมโยงกับลิเวอร์พูลและอาร์เซน่อลในช่วงที่ผ่านมา ในขณะที่ปารีส แซงต์ แชร์กแมงก็ยังจับตาดูสถานการณ์ของเดมเบเล่อย่างใกล้ชิด โดยบาร์ซ่าพร้อมรับฟังข้อเสนอทั้งการปล่อยนักเตะออกจากทีมอย่างถาวร หรือการย้ายทีมด้วยสัญญายืมตัวพร้อมกับออฟชั่นซื้อขาด

บาร์ซ่าจ่ายเงินถึง 140 ล้านปอนด์ สำหรับการคว้าตัวเดมเบเล่จากโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาร่วมทีมในปี 2017 เมื่อตอนที่เนย์มาร์ย้ายไปยังเปแอสเชด้วยการฉีกสัญญาจำนวน 198 ล้านปอนด์

การระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลอะไรต่อพรีเมียร์ลีกบ้าง

การแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019-20 ต้องเลื่อนเกมการแข่งขันมาหลายเดือน หลังไวรัสโควิด-19 ระบาดอย่างหนักไปทั่วโลก และการแข่งขันกีฬาถูกประกาศห้ามจัดกิจกรรมทั้งหมด ในขณะที่ลีกสูงสุดของอังกฤษถูกเลื่อนมาตั้งแต่วันศุกร์ที่ 13 มีนาคม

อีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมาในวันที่ 19 มีนาคม เอฟเอ ตัดสินใจประกาศเลื่อนเกมการแข่งขันไปจนถึงวันที่ 3 เมษายนเป็นอย่างน้อย ก่อนที่จะถูกประกาศเลื่อนออกมาเรื่อยๆ และบทความนี้จะมากล่าวถึงขั้นตอนต่างๆ ตั้งแต่ไวรัสระบาด จนถึงการประกาศกลับมาแข่งขันฟุตบอลในฤดูกาล 2019-20 อีกครั้ง

ทีมในพรีเมียร์ลีกส่วนใหญ่ถูกเลื่อนมาตั้งแต่เกมที่ 30 จนถึงเกมที่ 38 และยังไม่สามารถกลับมาแข่งขันได้ในเดือนเมษายน และพฤษภาคม โดยยังเหลือเกมใหญ่ๆ ที่น่าติดตาม ทั้งเมอร์ซีไซด์ ดาร์บี้ ระหว่างเอฟเวอร์ตัน และลิเวอร์พูล, ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเชลซี กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยยังมีเกมระหว่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับลิเวอร์พูล และท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส กับอาร์เซน่อล

พรีเมียร์ลีก ประกาศอย่างเป็นทางการออกมาแล้วว่า จะกลับมาแข่งขันอีกครั้งในวันที่ 17 มิถุนายน โดยเป็นเกมตกค้างระหว่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับอาร์เซน่อล และแอสตัน วิลล่า กับเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด โดยจะทำให้ทุกทีมแข่งขันเท่ากันที่ 29 เกม ก่อนที่จะแข่งขันต่อในช่วงวันที่ 19 ถึง 21 มิถุนายน

โอลิเวอร์ ดาวเด้น รัฐมนตรีกีฬาของสหราชอาณาจักร กล่าวว่า “พวกเรายังมองโลกในแง่ดีในการกลับมาแข่งขันฟุตบอลอีกครั้ง พวกเราพร้อมผลักดันเกมการแข่งขันให้มากที่สุดในการถ่ายทดสดแบบฟรีเพื่อการรับชม เพื่อสนับสนุนครอบครัวของฟุตบอล พวกเรายังคงปฏิบัติตามแนวทางของรัฐบาล สำหรับการกลับมาแข่งขันอีกครั้ง”

การเลื่อนเกมการแข่งขันที่ผ่านมา ทำให้ทุกสโมสรได้รับผลกระทบทางด้านการเงินอย่างชัดเจน หลังต้องแบกรับค่าเหนื่อย, ค่าจ้างทีมงาน และพนักงานทั้งหมดของสโมสร จนทำให้บางสโมสรต้องลดค่าเหนื่อยของนักเตะลงมาเพื่อนำไปจ่ายให้กับพนักงานที่เหลือของสโมสร

การระบาดของไวรัสโควิด-19 และทำให้ผู้คนมีความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสดังกล่าว ทำให้มีการถกเถียงกันมากมายเกี่ยวกับการแข่งขันที่เหลือในฤดูกาล 2019-20 ทั้งการยกเลิกฤดูกาล และประกาศให้เป็นโมฆะ หรือตัดจบฤดูกาล ก่อนที่พรีเมียร์ลีกจะออกมายืนยันถึงการให้คุณค่าเกี่ยวกับเกมการแข่งขัน และจะไม่ประกาศเป็นโมฆะอย่างแน่นอน

แต่อย่างไรก็ตาม ความกังวลเกี่ยวกับการระบาดของไวรัสก็ยังคงเป็นเครื่องหมายคำถามเช่นเดียวกัน หลังยังคงพบผู้ติดเชื้อไวรัสดังกล่าวจากผู้เกี่ยวข้องที่ผ่านมา โดยพบทั้งหมด 8 ราย จากการตรวจไป 3 ครั้งของพรีเมียร์ลีก ทั้งนักเตะ และทีมงานของทุกสโมสร

หากสุดท้ายพรีเมียร์ลีกสามารถแข่งขันต่อไปได้ และ ลิเวอร์พูล กลายเป็นแชมป์ลีกสูงสุดครั้งแรกในรอบ 30 ปี แต่ทีมก็จะถูกปฏิเสธสำหรับโอกาสในการฉลองแชมป์ด้วย

มิลเนอร์ คือ แรงบันดาลของ ดาวรุ่งหงส์แดง

มิลเนอร์ คือ แรงบันดาลของ ดาวรุ่งหงส์แดง 

จากการที่หงส์แดงลิเวอร์พูลส่งนักเตะชุด 2 ซึ่งเป็นเยาวชนหน้าใหม่ลงสนาม ในเกมคาราบาวคัพเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาและสามารถเอาชนะพาทีมเข้ารอบได้ โดยกัปตันทีมในเกมนี้คือ เจมส์ มิลเนอร์ และเข้ายังสามารถทำประตูให้กับทีมได้อีกซึ่ง เจอร์เก้น คลอป์ป ได้ออกมากล่าวว่า

การที่ให้ เจมส์ มิลเนอร์ มาเป็นแม่ทัพในเกมเมื่อคืนที่ผ่านมา เพราะเขามีศักยภาพมากพอ และเขายังเป็นแบบอย่างเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักเตะดาวรุ่ง ที่เราคัดเลือกมาลงสนามในเกมนี้ และแน่นอนว่า พวกเขาทำผลงานได้เต็มที่ พร้อมสร้างสรรค์เกมในแบบที่เราต้องการ และ มิลเนอร์ เองก็คุมลูกทีมได้อย่างดี เล่นได้ตามแผน 

แต่บรรดากูรูหลายคนมองว่า คลอป์ป ทำอะไรที่ค่อนข้างเสี่ยงมาก เพราะหากเมื่อคืนคู่แข่งขันอยู่ในระดับเดียวกันกับพวกเขาการจัดทีมคงไม่ออกมาในรูปแบบนี้ หรือหากดาวรุ่งพร้อมใจกันทำผลงานได้ไม่ดี ก็เป็นไปได้ที่ลิเวอร์พูลจะตกรอบตั้งแต่รอบแรกๆ แต่ก็ถือว่าเป็นการเสี่ยงที่คุ้มค่า เพราะบรรดาดาวรุ่งของหงส์แดง ที่ลงไปนั้นแต่ละคนฝีเท้าดูแล้วน่าเข็นขึ้นชุดใหญ่จริงๆ

คิดไวทำไวต้องยกให้หงส์แดงลิเวอร์พูล

 คิดไวทำไวต้องยกให้หงส์แดงลิเวอร์พูล

ต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ที่มีการนำเสนอข่าวไปว่า หงส์แดง ลิเวอร์พูล คว้าดาวรุ่งวัย 17 ปีสายเลือดเนเธอร์แลนด์ ซึ่งสังกัดกับสโมสร PEC Zwolle  มาร่วมทัพในฤดูกาลใหม่ ซึ่งจากแหล่งข่าวต่างประเทศนั้นระบุว่าเหลือเพียงขั้นตอนในการตรวจร่างกาย ซึ่งอาจจะเริ่มกันในสัปดาห์หน้า 

แต่ล่าสุดตามเวลาท้องถิ่นของประเทศอังกฤษช่วงสายๆ เมื่อวานนี้หรือตรงกับช่วงบ่ายๆเย็นๆในเวลาบ้านเรา หงส์แดงลิเวอร์พูล ตกลงเซ็นสัญญากับ นักเตะรายนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และมีการประกาศผ่านสื่อ โซเชียล ของสโมสรทุกช่องทางอย่างเป็นทางการ ก็ถือว่าเป็นนักเตะรายแรกที่ลงนามในตลาดซื้อขายของหงส์แดง ลิเวอร์พูล ในช่วงซัมเมอร์นี้ 

ทำเอาหลายทีมที่เฝ้ามองฟอร์มการเล่นของเด็กหนุ่มรายนี้ต้องอกหักไปตามๆกัน ซึ่งเจ้าตัวได้กล่าวผ่านสื่อของสโมสว่า เขารู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ได้รับโอกาสเข้าร่วมกับสโมสรลิเวอร์พูล มันเป็นเหมือนความฝันของเขาการได้ก้าวเข้าสู่สโมสรระดับโลกแบบนี้ มันทำให้เขารู้สึกท้าทาย และจะต้องทำผลงานให้ดีที่สุดและหวังว่าแฟนบอลหงส์แดงจะให้การสนับสนุนเขา

ซาร์รี่ ชี้ สิงห์ ลำบากแน่หลัง ฟีฟ่า ยืนยันโทษแบน

เมาริซิโอ ซาร์รี กุนซือของ เชลซี กล่าวว่าในการไล่ล่า ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นั้นเขาต้องการนักเตะเสริมทัพอีก 1-2 คนเพื่อลดช่องว่างกับสองทีมนี้ หลังจากที่ทาง ฟีฟ่า ได้ประกาศยืนยันโทษแบนห้ามซื้อขายนักเตะ 2 ช่วงตามเดิม โดยไม่รับคำอุทธรณ์ของทางทีม สิงห์บลู แต่อย่างใด

นายใหญ่ชาวอิตาเลี่ยนยอมรับว่าคงจะเป็นเรื่องยากที่จะไล่ล่าความสำเร็จในซีซั่นหน้าหากพวกเขาไม่สามารถเซ็นสัญญาดึงผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาเสริมทีมได้ในช่วงซัมเมอร์นี้ หลังถูกห้ามซื้อนักเตะ 2 ช่วงตลาด โดยพวกเขาจะสามารถกลับมาเซ็นสัญญากับนักเตะใหม่ได้อีกครั้งหลังจบฤดูกาลหน้า

“มันเป็นเรื่องยากที่จะอุดช่องว่าในตอนนี้ เราจำเป็นต้องทำงาน บางทีเราก็จำเป็นจต้องทำอะไรบางอย่างในตลาดซื้อขายนักเตะ ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะในระดับทีมอันดับ 1 และ 2 นั้นมันสูงมาก ๆ แน่นอนว่าเรายังต้องทำงานกันต่อไปและต้องพยายามให้มาก ในความคิดของผมเราสามารถลดช่องว่างตรงนี้ได้ ผมคิดว่าเราจะต้องซื้อนักเตะใหม่ซัก 1-2 คน มิเช่นนั้นมันจะเป็นเรื่องยากมากที่จะพัฒนาทีมได้ในทันทีทันใด” ซาร์รี่ กล่าว

เชลซี รั้งอันดับ 3 ของตาราง พรีเมียร์ลีก โดยมี 71 คะแนนจากการลงเล่น 37 นัด มีคะแนนห่างจาก ลิเวอร์พูล ทีมอนดับ 2 อยู่ถึง 23 คะแนน และห่างจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมจ่าฝูง 24 คะแนน โดยเหลือการแข่งขันอีกเพียง 1 นัด โดยพวกเขาจะออกไปเยือน เลชสเตอร์ ซิตี้ ในเกมปิดท้ายฤดูกาลในวันที่ 12 พฤษภาคมนี้ที่ คิงพาวเวอร์ สเตเดี้ยม

มามาดู ซาโก ชายผู้ไม่เคยยอมแพ้

มามาดู ซาโก้ กองหลังชาวฝรั่งเศส ของคริสตัล พาเลซ ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เล่าระลึกถึงความหลังในช่วงที่เป็นเด็กอาศัยอยู่ในเขต Goutte d’Or ของเมืองปารีส ความทรงจำที่เขาแทบไม่อยากจะลืม และการถูกคุกคามจากคนแปลกหน้าบนท้องถนน เพื่อความอยู่รอดในการดำรงชีวิตในแดนน้ำหอม

มีหลายครั้งที่ความหิวสร้างปัญหาต่อการใช้ชีวิต เพราะเขาไม่มีเงินพอที่จะสามารถซื้อขนมปังได้ เวลาที่ความเย็นจะเข้ามาแทนที่ในขณะที่เขาค้นหาจุดที่จะพักค้างคืน เพื่อเตรียมตัวสู้กับวันต่อไป

ซาโก้ เริ่มเล่าว่า “ผมอยู่บนถนนคอยขอเศษเหรียญจากคนผ่านไปมา และมีผู้หญิงคนหนึ่งที่ผมเข้าไปขอเงิน แต่เธอโวยวาย เพราะคิดว่าผมจะปล้นเธอ มันทำให้ผมตกใจมาก ผมแค่ต้องการเหรียญเพื่อซื้อขนมปัง”

“จากนั้นมาทบทวนความคิดกับตัวเองว่า ดูสิวันนี้ฉันหิว และเธอคิดว่าฉันจะทำอะไรไม่ดี แต่สักวันหนึ่งฉันจะเลิกทำแบบนี้ ผมว่าความหิวคืออะไร ผมรู้ว่าเย็นชาคืออะไร ผมเคยขอเหรียญเพื่อผมจะได้กินข้าว มันเป็นชีวิตของผมเมื่อฉันยังเด็ก ผมไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ แต่ผมก็ภูมิใจคุณรู้ไหม”

“เราทุกคนมีเรื่องราวของเราเอง เรื่องราวชีวิตส่วนตัวของผมทำให้ฉันอยู่ในอารมณ์แบบนี้ เพื่อตอบแทน เมื่อคุณได้รับความนิยมเล็กน้อย คุณสามารถใช้มันในทางบวก นั่นคือสิ่งที่ผมพยายามจะทำ ผมไม่ต้องการเป็นตัวอย่างให้คนอื่น ไม่เคย ผมแค่ต้องการสร้างแรงบันดาลใจ ทุกคนเติบโตขึ้นมาด้วยเรื่องราวของตัวเอง นี่เป็นเรื่องของผม เรื่องราวของผมช่วยให้ผมรู้ว่าตัวเองเป็นใคร และผมเห็นชีวิตได้อย่างไร” อดีตปราการหลัง ลิเวอร์พูล และปารีส แซงต์ แชร์กแมง ร่ายยาว

ตามคำพูดของ กองหลัง คริสตัล พาเลซ กำลังสร้างสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าของเขาในเมืองตัมบาประเทศเซเนกัล ซึ่งบิดาผู้ล่วงลับของเขามาจากที่นั่น “’ผมจะเรียกมันว่า Souleymane Sakho เพราะนั่นคือชื่อของพ่อผม”

“ผมรู้ว่า ตัวเองจะกลายเป็นนักฟุตบอลเมื่ออายุ 13 ปี วันที่ผมเสียพ่อ ผมมีความรับผิดชอบในครอบครัวบนไหล่ของผมทันที ผมกลายเป็นผู้ชายเต็มตัว สำหรับผมมันไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นนักฟุตบอล มันเป็นภาระผูกพัน”

2.มามาดู ซาโก ชายผู้ไม่เคยยอมแพ้

“มีหลายคนถามผมเมื่อวานนี้ว่า เป็นเรื่องยากไหมที่จะเป็นกัปตัน ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่อายุ 17 ปีผมพูดกับเขาว่า หัวหน้าคนที่ยากที่สุดที่ ผมเคยรับหน้าที่ก็คือมี การเป็นกัปตันครอบครัวในวัยเพียง 13 ปี”

ผู้ติดตาม อินสตราแกรม ของ ซาโก้ จะเห็นเขาสวมใส่เสื้อผ้าสุดหรู และขับรถโรลส์ รอยซ์ แม้ว่านี่จะเป็นภาพที่ทำให้เข้าใจผิด เบื้องหลังเฉดสีของนักออกแบบเหล่านั้นคือดวงตาของชายวัย 29 ปี ที่ได้เห็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตมาทั้งหมดแล้ว

ซาโก้ นั่งอยู่ในห้องมืดของสนามฝึกซ้อมของ พาเลซ และสวมชุดวอร์มพูม่าสีเทาอ่อน เขาดูมีความเท่ห์ และมีความผยองเกี่ยวกับตัวเอง แต่เขาก็เป็นคนตลก และมีความสุข อดีตดาวเตะ ลิเวอร์พูล ดูกระตือรือร้นที่จะให้แน่ใจว่าจะได้เห็นภาพในสิ่งที่เขาเป็น

แข้งเฟรนช์แมน เพิ่งเสร็จสิ้นจากการฝึกซ้อม และใจกว้างพอในการให้เวลากับแฟนบอล พาเลซ ทุกคน ในการถ่ายภาพ และขอลายเซ็น ก่อนจะมาให้สัมภาษณ์อย่างเป็นกันเอง

3.มามาดู ซาโก ชายผู้ไม่เคยยอมแพ้

วัยเด็กของเขาดูวุ่นวาย เขามีพี่ชายสามคน และพี่สาวสามคน เช่นเดียวกับเวลาของเขาบนท้องถนนนอกบ้านในเมืองปารีส ถึงกระนั้น ซาโก้ ก็ไม่เคยหลงไหลในวงการฟุตบอลเลย การเป็นนักสู้อยู่ใน DNA ของเขา – เขาเปรียบตัวเองเป็น ‘ทหาร’ ในระหว่างการสัมภาษณ์

ซาโก้ เซ็นสัญญาเข้าร่วมทีม เปแอสเช เมื่ออายุ 12 ปี และเขาก็ยังเป็นกัปตันที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร ก่อนที่เขาจะตัดสินใจย้ายไปร่วมทีม ลิเวอร์พูล ในปี 2013

อย่างไรก็ตาม เมื่อปี 2016 อาชีพของเขากลับกลายเป็นเรื่องไม่คาดฝัน เนื่องจาก เจ้าตัว ล้มเหลวในการทดสอบสารเสพติด แม้ว่าคดีดังกล่าวจะถูกยกเลิกในภายหลัง และปรากฏว่าเขาไม่ได้ทำอะไรผิด

หลังจากที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในศึกยูโรป้า ลีก ในรอบ 16 ทีม นั้น ยูฟ่าสั่งแบนเขาทันทีเพราะต้องทำการสอบสวน และ “หงส์แดง” ก็เสียหายอย่างชัดเจน เมื่อไม่มี ซาโก้ ลงสนามในนัดชิงชนะเลิศกับ เซบีย่า ทีมดังจากสเปน

4.มามาดู ซาโก ชายผู้ไม่เคยยอมแพ้

5.มามาดู ซาโก ชายผู้ไม่เคยยอมแพ้

ซาโก้ พยายามดิ้นรนย่างหนัก เพื่อให้ตัวองมีรายชื่ออยู่ในทีมชาติฝรั่งเศสชุดลุยฟุตบอลโลกช่วงฤดูร้อนปีที่แล้วในประเทศรัสเซีย อย่างไรก็ตาม ดิดิเย่ร์ เดสชองส์ กุนซือทัพ “ตราไก่” ก็ไม่เรียกเขาไปติดทีม ซึ่งเหตุผลอาจมาจากการที่เขาไม่ผ่านการตรวจหาสารเสพติด

“ผมไม่เคยเสียใจอะไรเลยในชีวิตของผม หากบางสิ่งสำหรับคุณในชีวิตคุณจะได้รับ แม้ว่าโลกทั้งใบจะมาต่อหน้าคุณ และคุณก็จะได้รับ หากไม่ใช่เพื่อคุณ ทำไมคุณถึงร้องไห้ ผมเพิ่งตามชะตากรรมของตัวเอง ชีวิตนั้นสั้น การเป็นนักฟุตบอลก็สั้นเช่นกัน”

“เราต้องคิดเป็นบวก เราอยู่ที่นี่เพื่อให้รอยยิ้มเป็นปรากฏการณ์ที่ดี ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี แค่เอามันไปและดูวิธีแก้ปัญหา คุณสามารถอยู่ในสถานที่เดียวกันและเริ่มร้องไห้ แต่นั่นจะไม่เปลี่ยนอนาคต” กองหลัง พาเลซ กล่าว

สำหรับฟุตบอลโลกรอบชิงชนะเลิศ ซาโก้ อยู่ใน มัลโม ประเทศสวีเดน กับ พาเลซ เพื่อเตรียมพร้อมก่อนฤดูกาลใหม่จะเริ่มขึ้น ทีมออกไปทานอาหารค่ำ และเขายืนขึ้นเพื่อร้องเพลงชาติจับเสื้อฝรั่งเศส คนที่นั่นบอกว่าเขายังคงร้องเพลงฝรั่งเศสตลอดทั้งคืน

“ผมภูมิใจในทีมที่สร้างมันขึ้นมา ผมรู้ว่าผมได้เขียนหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ของทีมชาติ แต่เรื่องราวยังไม่จบ หนังสือมีความยาว ผมยังคงอ่อนน้อมถ่อมตนฉันทำงานหนักเสมอ ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่นที่สร้างมันขึ้นมา แต่ผมยังไปต่อ แม้ว่าการทำงานอย่างหนักไม่ได้ผลคุณสามารถมองตัวเองในกระจกแล้วพูดว่า “ฉันลองทุกอย่างแล้ว” ฉันสามารถเปลี่ยนแปลมันได้” ซาโก้ กล่าวอย่างมุ่งมั่น

ในขณะที่ทีมชาติฝรั่งเศสกำลังทำศึกฟุตบอลโลกอยู่ในรัสเซีย ซาโก้ ใช้เวลาช่วงต้นฤดูร้อนเดินทางผ่านแปดประเทศในแอฟริกาเพื่อเยี่ยมโรงเรียน, สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า และเรือนจำเด็กและเยาวชน ในฐานะทูตของ AMSAK องค์กรการกุศลที่เขาก่อตั้งขึ้น

6.มามาดู ซาโก ชายผู้ไม่เคยยอมแพ้

เขาเชื่อว่ามันไม่ถูกต้องถ้าเพียงแค่ส่งเช็คเงินสดไป “z,อาจอยู่ในดูไบหรือไมอามี่ แต่สำคัญมากที่จะไปพูดคุยกับพวกเขาเพื่อให้พวกเขามีความหวัง การกุศลของผมเป็นเหมือนงานที่สองของตัวเอง ผมเคยมีชีวิตที่ยากลำบาก แต่ผมไม่เคยยอมแพ้ ความหวังเป็นสิ่งสำคัญ”

ซาโก้ หวังว่าเขาจะประสบความสำเร็จที่ ลิเวอร์พูล แต่มีการตกลงกับผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน เจอร์เก้น คล็อปป์ ซึ่งส่งเขากลับบ้านจากทัวร์ช่วงพรีซีซั่นที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยให้เหตุผลว่า เขาไม่เคารพกฎ เนื่องจาก อดีตกัปตัน ปแอสเช มาสายในระหว่างที่ทีมกำลังจะขึ้นเครื่องบินแล้วไปฝึกซ้อม และไม่มาทานอาหารตรงเวลากับนักเตะคนอื่น

เซ็นเตอร์ฮาล์ฟเฟร้นช์แมน ถูก ลิเวอร์พูล ขายให้กับ พาเลซ ในปี 2017 โดยฟอร์มการเล่นของเจ้าตัวนั้นยอดเยี่ยมมาก จนถูกยกให้เป็นกองหลังชั้นนำของพรีเมียร์ลีก 20 อันดับแรก สำหรับการเข้าสกัดผู้เล่นฝั่งตรงข้าม และการขึ้นบอลจากแดนหลัง

รอย ฮอดสัน กุนซือจอมเก๋า พาเลซ ยังไม่มีการลงโทษทางวินัยกับ ซาโก้ เขาเป็นที่ชื่นชอบอย่างมากในสโมสรจากทั้งแฟนบอล และเพื่อนร่วมทีม และเขาสัญญายาวจนถึงปี 2021 เลยทีเดียว

“แผนการในอนาคตหลักๆของผมคือ เรื่องารศึกษา บางทีอาจเป็นเรื่องการเมือง ภาพยนตร์ องค์กรการกุศลในธนาคารต่างๆ” ซาโก้ กล่าวด้วยรอยยิ้ม พร้อมยกแขนที่สูงขึ้นและบอกว่า ‘ผมไม่รู้’

สำหรับตอนนี้ ซาโก้ ให้ความสำคัญกับเกมนัดต่อไป นอกจากนี้เขายังมี เอฟเอ คัพ ที่จะกับวัตฟอร์ด เพื่อรอคอยแชมป์แรกในเมืองผู้ดี หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เขาเคยคว้าแชมป์ลีกร่วมกับ เปแอสเช อดีตทีมเก่า ที่ประเทศฝรั่งเศส มาแล้ว นั่นคือเป้าหมายต่อไปสำหรับดาวเตะชาวฝรั่งเศสคนนี้

7.มามาดู ซาโก ชายผู้ไม่เคยยอมแพ้